Scene Mode
กล้องดิจิตอล (Digital Camera) ที่เรา ๆ ท่านใช้งานอยู่ นอกจากถ่าย Auto ได้ดีแล้วยังมี โปรแกรมสำเร็จรูปที่ถูกตั้งค่ามาให้ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์หลากหลาย ซึ่งเราอาจเรียกรวม ๆ ว่า scene mode ก็ได้ เช่นต้องการถ่ายภาพบุคคล, การถ่ายภาพสถานที่ท่้องเที่ยว, การถ่ายภาพดอกไม้, การถ่ายภาพกีฬา, การถ่ายภาพกลางคืน, การถ่ายภาพน้ำตกหรือแม้แต่การถ่ายภาพบุคคลในเวลาการคืน
วันนี้ผมจะมาแนะนำการใช้งาน scene mode ต่าง ๆ ที่ใช้กันบ่อย ๆ นะครับ
โหมดการถ่ายภาพบุคคล (Portrait Mode)
- ใช้สำหรับถ่ายภาพบุคคล (อย่าถามนะว่าใช้ถ่ายอย่างอื่นได้ไหม ตอบว่าได้จ้า)
- กล้องจะพยายามใช้รูรับแสง (Aperture) ที่กว้างสุด เพื่อพยายามให้ฉากหลังเบลอ บางรุ่นบางยี่ห้อออกแบบมาให้โปรกแกรมทำหลังเบลอให้เลย
- กล้องจะเกลี่ยแสงที่ผิวให้ดูนุ่มนวลเพื่อให้ผิวหนังของคนในภาพออกมาดูดี ไม่กระดำกระด่าง เรื่องสีโดยมากจะขึ้นกับยี่ห้อว่าให้สีสดแบบไหนอย่างไร
- การใช้กล้องในโหมดการถ่ายภาพบุคคลนี้จะเห็นผลได้ดีเมื่อตัวแบบอยู๋ใกล้กล้องในระยะที่พอดี (ถามขำ ๆ ไปเที่ยวภูเรือ ถ่ายภาพคนกับทะเลหมอกด้วยโหมดนี้จะได้ไหมครับ ? ได้ครับ แต่ถ้าเป็นผมผมเอา โหมดถ่ายวิวทิวทัศน์ถ่ายดีกว่า 5 5 5)
โหมดการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ (Landscape Mode)
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าถ่ายวิวทิวทัศน์ (ไม่ได้กวนนะ ^_^")โดยมากเราก็อยากได้ภาพที่มันชัดไปหมดทั้งคนทั้งสถานที่ (เรียกเท่ ๆ ว่ามีระยะชัดลึกเยอะ ๆ นั่นเอง) โปรแกรมกล้องก็จะปรับรูรับแสงให้มีขนาดเล็ก ๆ (เดี๋ยวอธิบายให้ฟัง)ซึ่งจะทำให้ได้ภาพมีความชัดลึกมาก คือภาพที่ชัดตั้งแต่ฉากหน้าไปจนถึงฉากหลัง เช่นเห็นคนเห็นต้นไม้เห็นภูเขาเห็นทำเลหมอกเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่ด้านหลังนั่นเอง
(โดยปรกติกล้องคอมแพ็คจะมีเซ็นเซอร์ขนาดเล็กซึ่งจะทำให้กล้องมีคุณสมบัติชัดลึกมากขึ้นด้วย)
โหมดการถ่ายภาพกีฬา (Sport Mode)
- ออกแบบมาไว้สำหรับถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว เช่นการวิ่ง การกระโดด ลักษณะภาพที่ออกมาเป็นภาพแบบ Stop action
- กล้องจะปรับความเร็วชัตเตอร์สูง เพื่อให้ได้ภาพที่มีลักษณะหยุดนิ่งแสดงท่าทาง
- ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับสภาพแสงด้วยนะครับ
Macro Mode หรือ Micro Mode
- เจ้า macro mode นี้จะทำให้คุณสามารถถ่ายภาพสิ่งของเล็๋ก ๆ เช่น แหวน ดอกไม้ แมลงต่าง ๆ ได้ใกล้มากขึ้นทำให้ได้ภาพที่ใกล้มากและมีรายละเอียดของวัตถุที่ถ่ายมากขึ้น
- เปรียบง่าย ๆ ก็คล้าย ๆ การซูมดูในคอมพิวเตอร์นั่นแหละ แต่รูปที่ได้จากการถ่ายด้วย micro mode นี้ เป็นรูปที่ซูมมาเรียบร้อยแล้ว
- สภาพแว้ดล้อมที่ถ่ายภาพ
- ถ้าเป็นที่แสงสว่างมาก ๆ ก็จะได้ความเร็วชัตเตอร์ที่สามารถถือด้วยมือถ่ายได้
- ลม เป็นอีกตัวการที่ทำให้ถ่ายภาพได้ยากโดยเฉพาะในภาวะที่แสงเริ่มลดลง ดังนั้นควรที่จะรอจังหวะตอนที่วัตถุเคลื่อไหวน้อยที่สุด
- การเคลื่อนไหวของพวกแมลงก็คงเป็นอีกอุปสรรคหนึ่ง แนะนำว่าต้องอดทน และสังเกตพฤติกรรมของพวกเค้าเหล่านั้น
- อุปกรณ์ที่ช่วยให้การถ่ายภาพใน macro mode ง่ายขึ้น
- ขาตั้งกล้อง จะเล็กจะใหญ่ก็ได้มันช่วยได้จริง ๆ นะ
- สายลั่นชัตเตอร์ หรือ รีโมท ที่สั่งการถ่ายภาพ ถ้่าไม่มีก็ ตั้งเวลาเอาโล้ด
โหมดการถ่ายภาพกลางคืน (Night Mode) / หรือสภาพแสงน้อย (Low Light)
- เมื่อเจอสภาพแสงน้อย ๆ กล้องจะพยายามทำแสงให้เพียงพอต่อการเกิดภาพโดย การเปิดปิดชัตเตอร์ให้ช้าลงมากจนมือถือไม่ได้
- ในการถ่ายภาพโดยโหมดนี้ต้องใช้ขาตั้งกล้อง (tripods) หรือวางกล้องลงบนวัตถุที่สามารถวางได้ แล้วใช้การตั้งเวลาถ่ายภาพ หรือใช้รีโมตเอา
- การถ่ายภาพกลางคืนที่จะกล่าวถึงก็มีสองแบบด้วยกัน
- การถ่ายภาพสถานที่ในเวลาที่มีแสงน้อย ๆ : สำหรับอันนี้ไม่ยากเย็นอะไร ก็แค่ปรับกล้องไปที่ night mode จัดให้กล้องอยู่นิ่งด้วยขาตั้งกล้องหรือวางก็ได้ แล้วตั้งเวลาถ่ายภาพเอาตามความเหมาะสมหรือจะใช้รีโมตก็ได้ครับ
- การถ่ายภาพบุคคลในยามค่ำคืน : กล้องบางตัวจะมีโหมดนี้มาให้เลย เรามีหน้าที่แค่เอากล้องไปตั้งบนขาตั้งกล้อง ตั้งเวลาวิ่งมาแอคท่า แล้วก็อยู่นิ่ง ๆ นิดนึง แค่นี้ก็ได้ภาพยามค่ำคืนที่เก็บบรรยากาศเอาไว้แล้ว
- แต่ถ้ามีแค่โหมดถ่ายภาพยามค่ำคืนก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการถ่ายภาพได้ครับ
- ตั้งกล้องไปที่ Night Mode
- เปิดแฟลชแล้วตั้งโหมดแฟลชไปที่แก้ตาแดง หรือ slow sync (แนะนำ slow sync) ตั้งเวลาถ่ายภาพตามชอบ (หรือใช้รีโมต)
- วิ่งไปแอคท่านิ่ง ๆ
- ขอควรระวัง อยู่นิ่ง ๆ นะจ๊ะ รอจนมันถ่ายเสร็จจริง ๆ นะ
มีอีกโหมดนึงนะ VDO ผมขอข้ามไปเลยนะ ไม่ค่อยมีความรู้เรื่อง นี้เท่าไหร่
วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับคราวหน้า จะพาไปรู้จักศัพท์ต่าง ๆ ที่มักจะได้ยินในการถ่ายภาพ
ขอบคุณครับที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ บายจ้า
0 comments:
Post a Comment